วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

Photoshop : ทำแคตตาล็อกสินค้า ง่าย และรวดเร็ว

        การทำแคตตาล็อกสินค้า หรือการนำรูปสินค้าหลายๆ รูปมาแสดงไว้ในแผ่นเดียวนั้น สามารถทำได้หลายวิธีครับ ซึ่งอาจจะทำด้วยโปรแกรมสามัญประจำเครื่องอย่าง Microsoft Office ก็ได้เช่นกัน แต่การทำนั้นจะต้องใส่ทีละภาพ แล้วนำมาจัดเรียงเอง ซึ่งขนาดนั้นก็อาจจะเล็กไปบ้าง ใหญ่ไปบ้าง แล้วแต่สายตาคนทำ อีกทั้งยังใช้เวลามาก และค่อนข้างยุ่งยากอีกด้วย
        Tip Photoshop ตอนนี้จึงจะเสนอวิธีทำแคตตาล็อกที่ง่าย และรวดเร็ว หนำซ้ำยังจัดรูปแบบและใส่ชื่อสินค้าให้เราเรียบร้อย ว่าแล้วก็ตามมาดูวีธีทำกันเลยครับ

        ขั้นตอนที่ 1 ขั้นเตรียมการ
            1. สร้าง Folder ใหม่ขึ้นมา 1 Folder
            2. นำรูปสินค้าทั้งหมดที่จะเอามาทำแคตตาล็อกมารวมไว้ใน Folder เดียวกันนี้ แนะนำให้ใช้รูปสกุล .jpg นะครับ
            3. เปลี่ยนชื่อรูปแต่ละรูปเป็นชื่อสินค้าชิ้นนั้นๆ ไว้ก่อน (หรือจะเปลี่ยนเป็นชื่อรหัสสินค้าแต่ละชิ้นก็ได้ครับ)
        ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการทำ
            1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop ขึ้นมา คลิกที่ File > Automate แล้วเลือก Contact Sheet II ตามรูปครับ


            2. จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาแบบนี้ ให้คลิกที่ Browse ครับ


            3. จากนั้นคลิกทำไฮไลท์ที่ Folder ใหม่ที่เราทำไว้ในขั้นเตรียมการ แล้วก็คลิก OK ตามลำดับเลยครับ


            4. ถึงตอนนี้ก็จะมาถึงขั้นตอนการตั้งค่าแล้วครับ
             -    Document เลือกหน่วยและขนาดความกว้างความสูงตามใจชอบ หรือจะใช้หน่วยเป็น pixels และขนาด 2400 X 3000 ตามค่า Default ที่โปรแกรมตั้งมาให้แล้วก็ได้ครับ
             -    Resolution เลือกเป็น 300 pixels/inch
             -    Mode เลือกเป็น RGB Color
             -   Flatten All Layers ให้ติ๊กถูกไว้นะครับ
             -   ในส่วนของ Thumbnails ให้เลือก Place เป็น across first
             -   Use Auto-Spacing ติ๊กถูกไว้
             -   Columns และ Rows คือ จำนวนภาพในแนวนอนและแนวตั้ง ก็ตั้งค่าตามใจชอบเลยครับ แต่จากตัวอย่างผมตั้งไว้เป็น 4 และ 5 ตามลำดับ
             -   Rotate For Best Fit ไม่ต้องติ๊กถูกครับ
             -   Use Filename As Caption ติ๊กถูกไว้เพื่อให้แสดงชื่อสินค้าแต่ละชิ้น
             -   Font เลือกแบบและขนาดของตัวอักษร ตามใจชอบครับ
 
            5. หลังจากตั้งค่าเรียบร้อยแล้วก็คลิก OK


            6. ผลที่ได้ก็จะเป็นแบบนี้ครับ


            7. จากนั้นคลิกที่ File > Save ตั้งชื่อไฟล์ เลือกโฟลเดอร์ปลายทาง เปลี่ยน Format เป็น JPEG แล้วคลิก Save เป็นอันเรียบร้อยครับ

48 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2555 เวลา 19:24

    ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังหาวิธีทำง่ายๆแบบนี้อยู่พอดี

    ตอบลบ
  2. photoshop cs5 ไม่มีคำสั่ง Contact Sheet II ค่ะ ต้องทำยังไงหรอค่ะ


    ขอบคุณคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดาวน์โหลด Plug-Ins Contact Sheet II ของ Adobe Photoshop CS5 จาก Link นี้ครับ
      http://www.mediafire.com/?1fbprh6te4b6rtv#!
      เมื่อดาวน์โหลดได้แล้ว และแตกไฟล์ออกมาแล้ว ก็จะเห็นว่ามีโฟลเดอร์อยู่ 2 โฟลเดอร์ด้วยกัน คือ Optional Plug-Ins กับ Presets
      ให้ Copy โฟลเดอร์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Presets ทั้งหมดไปไว้ที่ C:/Program Files/Adobe/Adobe Photoshop CS5/Presets
      จากนั้น Copy โฟลเดอร์ Optional Plug-Ins ไปไว้ที่ C:/Program Files/Adobe/Adobe Photoshop CS5/Plug-Ins
      จากนั้น Restart ครั้งหนึ่งก่อนเปิดใช้งาน คราวนี้ CS5 ก็จะมี Contact Sheet II แล้วครับ

      ลบ
  3. ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ16 มีนาคม 2556 เวลา 11:24

    เยี่ยมไปเลยค่ะ ^^
    เอามาสอนอีกหน่อยนะค่ะ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ26 มีนาคม 2556 เวลา 13:25

    มันอ่านชื่อไฟล์ภาษาไทยไม่ได้ครับผม แก้ไขยังไงครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ครับ มันอ่านชื่อไฟล์ภาษาไทยไม่ได้
      หากต้องการให้ชื่อสินค้าเป็นภาษาไทย พอทำถึงขั้นตอนที่ 6 แล้ว ให้ใช้เครื่องมือ Eraser Tool ลบชื่อที่อ่านไม่ได้ออก จากนั้นใช้เครื่องมือ Type Tool เขียนชื่อภาษาไทยลงไปในตำแหน่งที่ต้องการ โดยเลือกใช้ Font ที่มีชื่อลงท้ายด้วย UPC ก่อนจะ Save ตามวิธีในขั้นตอนที่ 7 ครับ

      ลบ
  6. ขอขอบคุณผู้เขียนมากค่ะ ที่ผู้เขียนเสียสละเวลาจัดทำ จัดพิมพ์แนวทางการสอนแบบง่าย ๆ ให้กับคนที่ไม่เคยมีความรู้ในเรื่องนี้มาก่อน ถือเป็นแสงเทียนเล่มหนึ่งที่ให้คุณค่ามากมายกับผู้คนเป็นล้าน ๆ คนค่ะ ขอขอบพระคุณจริง ๆ ค่ะ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ24 เมษายน 2556 เวลา 14:28

    Adobe Photoshop cs4 ค่ะ ต้องทำยังไงค่ะ ไม่มี Contact Sheet II ตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดาวน์โหลด Plugins ของ Adobe Photoshop CS4 จาก Link นี้ครับ
      http://www.mediafire.com/?n8am57uwxah32e8
      เมื่อดาวน์โหลดได้แล้วก็แตกไฟล์ออกมาก่อนนะครับ จากนั้นดับเบิ้ลคลิกเพื่อ Install (ไว้ที่ Desktop/Adobe CS4/Photoshop Content ตามค่าที่ตัว Install ตั้งมาให้)
      หลังจาก Install แล้วก็ทำตามขั้นตอนนี้ครับ
      1. ไปที่ Desktop แล้วเปิดโฟลเดอร์ Adobe CS4 > Photoshop Content > English > Goodies > Optional plug-ins > Plug-ins 32 bit > Automate จากนั้นย้ายไฟล์ Contact Sheet II ไปไว้ใน C/Program Files/Adobe/Adobe Photoshop CS4/Plug-ins/Automate
      2. ไปที่ Desktop แล้วเปิดโฟลเดอร์ Adobe CS4 > Photoshop Content > English > Goodies > Presets แล้วย้ายโฟลเดอร์ Layouts ไปไว้ใน C/Program Files/Adobe/Adobe Photoshop CS4/Presets
      3. ไปที่ Desktop แล้วเปิดโฟลเดอร์ Adobe CS4 > Photoshop Content > English > Goodies > Optional plug-ins แล้วย้ายโฟลเดอร์ Bridge Startup Scripts ไปไว้ใน C/Program Files/Common Files/Adobe
      4. Restart เครื่องหนึ่งครั้งแล้วเปิดใช้งานครับ

      ลบ
  8. สวัสดีค่ะ อยากทราบว่า มี plug in สำหรับ mac มั้ยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. Plug-ins สำหรับ Mac ดาวน์โหลดจาก Adobe ได้โดยตรงเลยครับ ตาม Link ข้างล่างนี้นะครับ
      Link แรกสำหรับ CS4
      http://www.adobe.com/support/downloads/thankyou.jsp?ftpID=4047&fileID=3768
      ส่วน Link ที่ 2 สำหรับ CS5 ครับ
      http://www.adobe.com/support/downloads/thankyou.jsp?ftpID=4963&fileID=4602

      ลบ
  9. ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์มากเลย ^-^

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ16 มีนาคม 2557 เวลา 07:53

    ขอบคุณครับเดี๋ยวจะลองดูครับ^_^

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ12 เมษายน 2557 เวลา 09:53

    ขอบคุณครับ ^_^

    ตอบลบ
  12. ทำไม่ได้ค่ะเขาใส่ password cop ไม่ได้ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่เข้าใจคำถามครับ password ของอะไร ตรงไหน?
      และทำไม่ได้ตรงขั้นตอนไหนครับ

      ลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ17 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:02

    เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop ขึ้นมา คลิกที่ File > Automate แล้วเลือก Contact Sheet II แต่มีข้อความเด้งขึ้มาว่า There was an error.See details? ลงCS6 ค่ะแก้ไขยังไง รบกวนด้วนค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เข้าใจว่าเป็นโปรแกรมประเภท Portable นะครับ
      วิธีเช็คดูว่าโปรแกรมที่ลงเป็นประเภท Portable หรือเปล่า ให้ไปที่
      Computer > Local Disk (C:) > Program Files > Adobe > AutoPlay > Docs
      จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์ PhotoshopCS6.exe แล้วเลือก Properties
      คลิกแท็ป General แล้วดูในช่อง Description ถ้ามีคำว่า Portable อยู่ท้ายชื่อโปรแกรม แสดงว่าโปรแกรมที่คุณลงเป็น Portable ครับ
      หรือถ้าใน Folder นี้มีไฟล์ที่ชื่อ PhotoshopCS6Portable.ini อยู่ด้วยก็แสดงว่าใช่แน่นอน
      ข้อดีของโปรแกรมประเภท Portable คือมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปใช้เครื่องอื่นๆ ได้ โดยทาง Flash Drive หรือ USB Drive ชนิดต่างๆ
      ข้อเสียคือ ฟังค์ชั่นการใช้งานต่างๆ อาจจะไม่ครบ เพราะคนทำโปรแกรมต้องการให้มีขนาดเล็ก พกพาได้ จึงตัดส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้ของโปรแกรมนั้นๆ ออก
      ถ้าหากลองเช็คดูแล้วว่าโปรแกรมที่คุณลงเป็น Portable จริง แนะนำให้ลงตัวเต็มดีกว่าครับ

      ลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ29 สิงหาคม 2557 เวลา 15:36

    เป็นประโยชน์มากเลยคับ ขอบคุณมากคับที่แนะนำสิ่งดีให้ จำนำไปใช้ประโยชน์ให้มากคับผม

    ตอบลบ
  15. ไม่ทราบว่าสามารถกำหนดขนาดของขอบกระดาษได้มั้ยครับ สำหรับพิมพ์ออกมาเย็บเล่มน่ะครับ แล้วก็มีวิธีใส่ภาพหรือสีที่พื้นหลังบ้างมั้ยครับ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หลังจากทำถึงขั้นตอนที่ 6 เสร็จแล้ว ให้ทำตามนี้ต่อครับ
      1. คลิกที่ Select > All
      2. คลิกที่ Edit > Copy
      3. คลิกที่ File > New
      - ตั้งค่า Width = 2500 pixels
      - ตั้งค่า Height = 3100 pixels
      หมายเหตุ - ค่านี้อาจเปลี่ยนปลงได้ตามความต้องการว่าอยากจะได้ขอบกระดาษขนาดไหนนะครับ
      - Background Contents เลือกเป็น White
      4. คลิก OK
      5. คลิก Edit > Paste
      6. กดตัว v ที่แป้นคีย์บอร์ด แล้วคลิกค้างที่รูปแล้วเลื่อนไปทางขวา เพื่อให้ได้ที่ว่างด้านซ้ายสำหรับเย็บเล่ม
      7. คลิกที่ File > Save ตั้งชื่อไฟล์ เลือกโฟลเดอร์ปลายทาง เปลี่ยน Format เป็น JPEG แล้วคลิก Save เป็นอันเรียบร้อยครับ
      ส่วนวิธีใส่ภาพหรือสีพื้นหลังนั้นยังมีอีกหลายขั้นตอน ถ้าตอบในช่องตอบคอมเมนต์นี้เกรงว่าจะเข้าใจยาก คงต้องเขียนเป็นบทความใหม่ขึ้นอีกบทความหนึ่งในโอกาสหน้าครับ

      ลบ
    2. ขอบคุณมากครับ ผมขอควาสมรู้เพิ่มอีกซักข้อนะครับ คือตอนที่ผมทำออกมา ชื่อรูปที่ผมตั้งไว้จะตามมาด้วยนามสกุล เช่น "สไลเดอร์.jpeg" ทุกอันเลยครับ พอจะมีวิธีทำให้ไม่มีนามสกุลไฟล์ติดมาด้วยได้มั้ยครับ

      ลบ
    3. หลังจากทำถึงขั้นตอนที่ 6 เสร็จแล้ว ให้ทำตามนี้ต่อครับ
      1. กดตัว e ที่แป้นคีย์บอร์ด แล้วคลิกขวาที่รูปเพื่อปรับขนาด (size) ของยางลบให้เหมาะสม จากนั้นแดร็กเมาส์ (คลิดซ้ายค้างแล้วลากไปมา) บนนามสกุลไฟล์เพื่อลบออก
      2. หลังจากลบนามสกุลไฟล์ออกแล้ว ชื่อรูปอาจจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม (อาจจะเยื้องไปทางซ้ายมากเกินไป) ให้กดตัว m ที่แป้นคีย์บอร์ด แล้วแดร็กเมาส์ลากกรอบล้อมรอบชื่อรูป (จนมีกรอบเส้นประขึ้นล้อมรอบชื่อรูป)
      3. กดตัว v ที่แป้นคีย์บอร์ด จากนั้นคลิกซ้ายค้างที่ชื่อรูปแล้วเลื่อนไปทางขวาจนได้ตำแหน่งที่ต้องการ
      4. ทำรูปต่อไปตามวิธีข้อ 1-3 วนซ้ำไปเรื่อยๆ จนครบทุกรูป
      5. เมื่อลบนามสกุลไฟล์ และปรับตำแหน่งของชื่อรูปจนครบทุกรูปแล้ว ก็คลิกที่ File > Save ตั้งชื่อไฟล์ เลือกโฟลเดอร์ปลายทาง เปลี่ยน Format เป็น JPEG แล้วคลิก Save เป็นอันเรียบร้อยครับ

      ลบ
    4. ขอบคุณที่ชี้แนะครับ ผมจะรออ่านบทความต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ

      ลบ
  16. รบกวนสอบถามทีครับ ผมตั้งชื่อไฟล์เรียงลำดับ 1,2,3,4.... ,10,11 แต่พอทำแล้วไฟล์จะเรียงเลขกระโดดข้ามกันเป็น 1,10,11,2,3,4 พอจะมีวิธีแก้ไขมั้ยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ให้ตั้งชื่อรูปโดยใช้ตัวอักษรผสมเข้าไปครับ เช่น A1,A2,A3.....A9 แล้วต่อด้วย B1,B2.B3......ถึง B9 แบบนี้ครับ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม 2560 เวลา 20:56

      ตั้งตัวอักษรและตัวเลขตามที่บอกแต่ภาพก็กระโดดอยู่ค่ะ แก้ยังไงคะอยากให้เรียงตามที่กำหนดไว้

      ลบ
  17. ไม่ระบุชื่อ8 กรกฎาคม 2558 เวลา 17:42

    เปิด contact sheet แล้วมันขึ้น Error มีวิธีแก้อย่างไรครับ ?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เข้าใจว่าเป็นโปรแกรมประเภท Portable นะครับ
      วิธีเช็คดูว่าโปรแกรมที่ลงเป็นประเภท Portable หรือเปล่า ให้ไปที่
      Computer > Local Disk (C:) > Program Files > Adobe > AutoPlay > Docs
      จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์ PhotoshopCS6.exe แล้วเลือก Properties
      คลิกแท็ป General แล้วดูในช่อง Description ถ้ามีคำว่า Portable อยู่ท้ายชื่อโปรแกรม แสดงว่าโปรแกรมที่คุณลงเป็น Portable ครับ
      หรือถ้าใน Folder นี้มีไฟล์ที่ชื่อ PhotoshopCS6Portable.ini อยู่ด้วยก็แสดงว่าใช่แน่นอน
      ข้อดีของโปรแกรมประเภท Portable คือมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปใช้เครื่องอื่นๆ ได้ โดยทาง Flash Drive หรือ USB Drive ชนิดต่างๆ
      ข้อเสียคือ ฟังค์ชั่นการใช้งานต่างๆ อาจจะไม่ครบ เพราะคนทำโปรแกรมต้องการให้มีขนาดเล็ก พกพาได้ จึงตัดส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้ของโปรแกรมนั้นๆ ออก
      ถ้าหากลองเช็คดูแล้วว่าโปรแกรมที่คุณลงเป็น Portable จริง แนะนำให้ลงตัวเต็มดีกว่าครับ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ14 กรกฎาคม 2558 เวลา 17:10

      ขอบคุณมากครับ เป็น portable อย่างที่พี่ว่ามาครับ

      จะลองลงตัวเต็มมาใช้ครับ

      ขอบพระคุณครับ

      ลบ
  18. ถ้าเป็นเครื่องmac ลงได้ป่าวค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  19. photoshop cs6 ไม่มีคำสั่ง Contact Sheet II ค่ะ ต้องทำไงดีคะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. photoshop cs6 มีคำสั่ง Contact Sheet II ครับ
      ที่ว่าไม่มีนั้นหมายความว่ามันไม่มีให้คลิก หรือว่ามีแต่คลิกแล้วมันขึ้น error ครับ
      หากมีให้คลิกแต่คลิกแล้วขึ้น error ให้ดูคำตอบความคิดเห็นที่ 13 กับ 17 ครับ
      แต่ถ้าหากไม่มีให้คลิกจริงๆ ก็น่าจะเป็นที่ตัวลงโปรแกรมลงมาไม่สมบูรณ์ ให้เอา cs6 ออก แล้วลง photoshop cc แทนก็ได้ครับ

      ลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2559 เวลา 12:20

    มีให้คลิก แต่ขึ้น Error ค่ะ ที่ใช้เป็น Ps6 extended ค่ะ

    ตอบลบ
  21. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2559 เวลา 15:51

    photoshop cs6 Extended มี plugin มั้ยคะ คลิกแล้ว error ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. cs6 ไม่มี plugin ครับ ซึ่งสาเหตุที่ไม่มีก็เพราะว่า contact Sheet II มันมีอยู่ในตัวโปรแกรมอยู่แล้ว
      ที่มัน error เป็นเพราะโปรแกรมที่ลงเป็นประเภท portable ตามคำตอบในความเห็นที่ 13 กับ 17 ครับ
      ทางแก้คือ ต้อง uninstall ตัวนี้ออกก แล้วลงใหม่เป็นตัวเต็ม ซึ่งตัวเต็มสามารถดาวน์โหลดได้จาก link ข้างล่างนี้ครับ
      มีทั้งหมด 14 part โหลดให้ครบทั้ง 14 part แล้วแตกไฟล์ แล้วลงโปรแกรมตามวิธีลงในนั้น
      หรือหากถ้าดาวน์โหลดเสร็จแล้วลงไม่สำเร็จติดขัดตรงขั้นตอนไหนก็ถามมาใหม่ได้ครับ
      Part 1
      http://www.mediafire.com/download/owy8wgkgckv585u/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part01.rar
      Part 2
      http://www.mediafire.com/download/nc4g12vejzbi582/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part02.rar
      Part 3
      http://www.mediafire.com/download/k122tv75pm1s6aa/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part03.rar
      Part 4
      http://www.mediafire.com/download/dmczv3zg4z54dja/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part04.rar
      Part 5
      http://www.mediafire.com/download/yn10b69z8379nza/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part05.rar
      Part 6
      http://www.mediafire.com/download/t4pjzf59h8rwp3k/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part06.rar
      Part 7
      http://www.mediafire.com/download/jiua6trtiuen5dw/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part07.rar
      Part 8
      http://www.mediafire.com/download/f1nnwkqsykw4ydf/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part08.rar
      Part 9
      http://www.mediafire.com/download/w4xypel8y67p6b7/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part09.rar
      Part 10
      http://www.mediafire.com/download/r8f81fl9rqb06bz/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part10.rar
      Part 11
      http://www.mediafire.com/download/4p7wpfv9wim40if/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part11.rar
      Part 12
      http://www.mediafire.com/download/vzh1e6k5aeqe542/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part12.rar
      Part 13
      http://www.mediafire.com/download/fpqmm5b1f92lr36/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part13.rar
      Part 14
      http://www.mediafire.com/download/dhq0ql51zy1jtva/Adobe_Photoshop_CS6_13.1.2_Extended_Multilanguage_Full_Version.part14.rar

      ลบ
  22. เราทำตามแล้ว ง่ายมากเลยค่ะ ไม่ถึง 2 นาที เสร็จเลย แต่ว่าเรายังไม่รู้ว่าจะเพิ่มคำบรรยายแบบไหนดีคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เช่น ราคาอยู่ใต้ภาพน่ะค่ะ

      ลบ
    2. เช่น ราคาอยู่ใต้ภาพน่ะค่ะ

      ลบ
    3. ตั้งชื่อรูปเป็นรหัสสินค้า + ราคาก็ได้ครับ

      ลบ
  23. ตั้งค่าตามแล้ว แต่พอทำออกมา รูปมันไม่เท่ากันครับ แก้ยังไงครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นเพราะรูปที่นำมาทำแต่ละรูปมีขนาดไม่เท่ากันครับ ให้ทำรูปให้มีขนาดเท่ากันก่อน แล้วค่อยนำมาทำแคตตาล็อก
      ส่วนวิธีทำรูปให้มีขนาดเท่ากันอาจจะใช้วิธี resize หรือ crop ตามวิธีนี้ก็ได้ครับ
      http://pongsid3.blogspot.com/2014/06/photoshop.html#more

      ลบ
  24. พี่คะ ถ้าในเครื่องเรา ไม่มีโฟลเดอร์ Photo shop แล้ว Plug in ที่ดาวน์โหลดมาจะเอาเข้าที่ไหนคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช้เวอร์ชั่นอะไรครับ ถ้า 3 หรือ 6 ไม่ต้องดาวน์โหลด Plug in ใช้ได้เลย
      แต่ถ้าเวอร์ชั่น 4 หรือ 5 ก็ดาวน์โหลดมาแล้วทำตามที่ผมตอบไว้ในคำถามต้นๆ ครับ
      (ถ้าในเครื่องลงโปรแกรม Photoshop ไว้ โฟลเดอร์ Photoshop มันจะต้องมีขึ้นมาโดยอัตโนมัติครับ)

      ลบ
  25. พี่ค่ะถ้าจะตั้งหน้ากระดาษเป็นแนวนอนทำไงค่ะและจะเปนชื่อสินค้าและเพิ่มราคาสินค้าต้องทำไงค่ั

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดูตรงขั้นตอนที่ 4 ครับ (ขั้นตอนการตั้งค่า)
      ตั้งค่า Document โดย
      - เลือกหน่วยเป็น pixels
      - ใส่ขนาด Width = 3000
      - ใส่ขนาด Height = 2400
      หรือถ้าต้องการให้ได้ขนาดเท่ากับกระดาษ A4 ให้ใส่ขนาดตามนี้
      - Width = 3508
      - Height = 2480
      ส่วนชื่อสินค้ากับราคานั้นให้ดูตรง ขั้นตอนที่ 1 ขั้นเตรียมการ
      หัวข้อที่ 3 คือเปลี่ยนชื่อรูปเป็นชื่อสินค้า / ราคา ไว้ก่อนครับ

      ลบ